- Back to Home »
- พัฒนาตนเอง »
- "The Last Resignment" การลาออกครั้งสุดท้าย โดย ภาณุมาศ ทองธนากุล.
Posted by : face2cu
วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2556
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2554 (บทความเก่า) ผมได้ไปเดิน Se-ed book กับเพื่อน อยู่ๆเห็นหนังสือที่มีชื่อเรื่องว่า การลาออกครั้งสุดท้าย "The Last Resignment" แล้วก็เหมือนกับมีแรงดึงดูด ว่ามันเกี่ยวกับอะไร แล้วผมก็เปิดๆ อ่านดูด้านหลัง และเจอคำนิยม ก็มีคุณฐิตินาถ ณ พัทลุงซึ่งเธอเป็นนักเขียนที่ผมชื่นชอบ และเคยได้ฟังธรรมจากเธอด้วย เลยคิดว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะมีอะไรที่เป็นประโยชน์แน่ๆ
ว่าแล้วก็ควักเงินที่พึ่งหามาได้ ซื้อโดยไม่ลังเล
เมื่อได้หนังสือ โดยไม่ได้ตั้งใจ ก็คิดว่าคงจะอ่านไม่จบแน่ๆ เลย เพราะปกติ เป็นคนไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือจบ และก็เป็นคนอ่านช้าด้วย แต่พอผมได้เริ่มอ่านหนังสือเล่มนี้
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมอ่านจบภายใน 4 วัน
(คนอื่นอาจจะเห็นว่าช้า แต่สำหรับผมมันเร็วมากอ่านช่วงก่อนนอน)
ก่อนเริ่มการอ่าน ผมสงสัยคำว่า การลาออกครั้งสุดท้าย
การลาออกมาแล้วอยู่บ้านมีเงินมากมาย อยู่สบาย
หนังสือเล่มนี้จะเป็นการสอนให้คนหาเงิน เยอะๆ รึเปล่านะ
หรือ
ฝึกความอดทนไม่ให้ลาออกอีก
หนังสือเล่มนี้จะสอนให้เราฝึกให้เราเป็นลูกจ้างที่ดีรึเปล่านะ
เมื่อเริ่มอ่าน ก็ปรากฎว่า เค้ายุให้เราลาออจากงาน เฮ้อ คนเราต้องทำงานซิ ไม่งั้นจะมีกินได้อย่างไร อยู่ๆ จะมายุให้คนลาออกจากงาน ยิ่งอ่านแล้วก็ยิ่งคัดค้านว่าเขียนได้แต่คงจะทำไม่ได้ ซึ่งคนเขียนก็ได้ลาออกจริงๆ (ใจกล้ามากเลย) แต่คุณใบพัด (ผู้เขียน) ก็ได้มีการวางแผนก่อนการลาออก และหลังจากนั้นก็เป็นคนที่มีความสุขในฐานะคนว่างงาน แต่แล้วก็มีเรื่องให้ต้องพลิกผัน หากใครอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ขอให้ลองหนังสือเล่มนี้จะเล่าเรื่อง พร้อมแฝงข้อคิดต่างๆ ให้ด้วยครับ
ผมจะขอนำข้อคิดที่ผมคิดได้จากหนังสือเล่มนี้มาแบ่งปันให้กับคนรักนะครับ
(ในหนังสือเขียนว่าสามารถแบ่งปันได้)
เรื่องการบริหารเงิน
หนังสือหลายๆ เล่มเน้นที่ว่าหาเงินอย่างไรให้ได้เงินมากที่สุด ในขณะเดียวกัน ยังมีอีกด้านนึงซึ่งคนอาจไม่นึกถึง คือการใช้จ่ายนั้นเอง คุณใบพัดเปรียบเทียบให้เห็นได้ชัีดว่า การบริหารเงินนั้นถ้ามีการบริหารทั้งสองฝั่ง เราก็สามารถที่จะเพิ่มตัวเลขในสมุดบัญชีเราได้
เรื่องเวลาในชีวิต
ในชีวิตการทำงานเป็นลูกจ้างนั้น ต้องเอาเวลาไปแลกมากับเงินที่ได้ บางคนทำงานที่ตนไม่ได้รักก็จะรู้สึกว่าต้องใช้เวลาที่ตนมีแลกกับเงิน แต่ถ้าหากว่าทำในสิ่งที่รัก เราก็จะสนุกกับมันและตัวเงินนั้นก็จะตามมาเอง แต่ที่สำคัญคือว่าเราต้องค้นหาตัวเองให้พบว่าเรานั้นชอบอะไรกันแน่
เรื่องด้านต่างๆ ในชีวิต
ผมรู้สึกชอบในลักษณ์การเขียนของเค้าเพราะว่า ในชีวิตของคนเราบางครั้งจะมองเห็นแต่ส่วนเดียว บางคนอาจจะทำแต่งานจนหลงลืม งานบ้าน หรือการคุยกับคนทางบ้าน และมีด้านอื่นๆ อีก ซึ่งพออ่านแล้วก็รู้สึกสะท้อนตัวเองว่า เราควรที่จะแบ่งเวลาให้ดีกว่านี้เพื่อที่จะได้ทำให้สิ่งรอบข้างให้ดีกว่านี้
เรื่องการเปรียบเทียบ
ผมเป็นคนนึงที่ชอบเปรียบเทียบ เปรียบทุกอย่างไม่ว่าจะสิ่งที่เทียบกันได้ หรือสิ่งที่เทียบกันไม่ได้ซึ่งสุดท้าย ซึ่งผลที่ได้ก็มีทั้งทำให้ตัวเองรู้สึกดี หรือไม่ก็ทำให้เรารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ แต่พอได้อ่านก็รู้ว่าในชีวิตคนเรานั้นอย่าเอาไปเปรียบเทียบกับสิ่งอื่น จงเป็นตัวของตัวเองจะดีที่สุด
จริงๆ แล้วมีอีกเยอะเลยครับ ยังไงอย่าลืมหาอ่านกันนะครับ
face2cu